สำเร็จแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าบินได้
เมื่อยุคสมัยใหม่ก้าวเข้า ประเทศญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศที่ต้องเอาตัวรอดจากความแร้นแค้น ทำให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เริ่มมีนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อการเอาตัวรอดด้านเศรษฐกิจ ที่เคยแทบไม่เหลืออะไรจากสงคราม ญี่ปุ่นเปลี่ยนมาสร้างอำนาจด้วยเทคโนโลยี ด้าน AI และ IT โดยที่ไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้ออีก และยังเป็นประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจ ด้านการผลิตนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้ชาวโลกได้ใช้ประโยชน์ ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ภายในบ้านต่าง ๆ ที่ทันสมัย หรือรถยนต์จนเป็นที่ยอมรับทั่วโลก
ล่าสุดประเทศญี่ปุ่นได้โชว์ศักยภาพเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าบินได้เป็นครั้งแรก บริษัท SkyDrive inc. ได้ทำการทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าบินได้สำเร็จแล้ว ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น นับตั้งแต่ที่ บริษัท SkyDrive inc. ได้พยายามมาตั้งแต่ ปี 2012 กระทั่งมาทำสำเร็จในปีนี้ คือปี 2020 ซึ่งการทดสอบ เป็นการทดสอบแบบมีสักขีพยานอยู่ร่วมท่ามกลางการทดสอบบิน และรถยนต์ไฟฟ้าบินได้ ก็บินขึ้นเหนือพื้นเป็นเวลา 4 นาที ความสูงที่ใช้บิน ใช้ความสูงประมาณ 2-3 เมตร โดยใช้สนามทดสอบของ บริษัท โตโยต้า ที่กรุงโตเกียว เป็นแหล่งทดสอบ
ซึ่งในอนาคตทาง บริษัท Skydrive inc. จะทำการ พัฒนาให้รถยนต์บินได้สามารถขับเคลื่อนด้วยการบินให้ได้นาน 30 นาที อีกด้วย เนื่องจากต้องการตีตลาดด้านรถยนต์บินได้ออกไปสู่ชาวโลก แต่อย่างไรก็ดี โครงการนี้ ถ้าหากต้องการตีตลาดโลก อาจจะต้องมีการพัฒนาในด้านของอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต เครื่องยนต์ แบตเตอรี่ และความปลอดภัย ในการพัฒนาด้าน IT ที่มีความเสถียร เพื่อทำให้ AI ฟังคำสั่งได้อย่างแม่นยำ สร้างความมั่นใจให้เป็นที่ยอมรับต่อโลก ส่วนช่วงเวลาที่คาดว่าน่าจะนำออกมาขายได้คือ ปี 2023 ราคาที่ประมาณการไว้ ประมาณ 300,000 ถึง 500,000 ดอลลาร์ หรือ 9 ล้านถึง 15 ล้านบาทไทย ซึ่งหากขายราคานี้จริง คาดว่าอาจจะยังไม่เหมาะสมกับประชาชนที่จะซื้อหามาขับได้ทั่วไป แต่อาจจะมีประโยชน์ในด้านอื่น อย่างเช่น ทางการแพทย์ หรือการช่วยเหลือฉุกเฉิน บริการด้านแท็กซี่ขนส่งทางอากาศที่มีความจำเป็นต้องใช้เวลาที่เร่งรัด
เหตุผลหนึ่งที่ชาวญี่ปุ่นพยายามจะผลักดันรถยนต์ไฟฟ้าบินได้ขึ้นมา อาจไม่ใช่ทำเพราะชื่อเสียงเพียงอย่างเดียว และอาจไม่ใช่ทำเพื่อที่จะเป็นผู้นำทางการค้าโลกแข่งกับใคร แต่อาจเพราะเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรทางบกที่ค่อนข้างหนาแน่นในปัจจุบัน และที่สำคัญประเทศญี่ปุ่นเองก็เป็นประเทศที่รายล้อมไปด้วยทะเลมหาสมุทร แล้วยังเป็นประเทศที่มีการเกิดแผ่นดินไหวค่อนข้างบ่อย ดังนั้นการพัฒนารถยนต์บินได้ในครั้งนี้ น่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆที่ทางประเทศญี่ปุ่นต้องเจอได้
ก่อนหน้านี้ก็มีผู้ที่พยายามผลักดันให้มีรถยนต์บินได้หลายราย เช่น บริษัท Audiและบริษัทแอร์บัส เคยทำรถยนต์ต้นแบบย่อขนาด 1 ต่อ 4 ของรถยนต์ขนาดจริงที่ชื่อว่า Pop up next นำออกแสดงเป็นรถยนต์บินได้ต้นแบบ แต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดีนัก และได้พักโครงการไปก่อน เนื่องจากการพัฒนารถยนต์บินได้ต้นแบบของทางออดี้ อาจจะต้องใช้เวลาและงบประมาณที่ค่อนข้างมากและยาวนาน ปอร์เช่และ Boeing ก็ได้มีการพัฒนารถยนต์บินได้เช่นกัน แต่คาดการณ์ไว้ว่าจะนำออกไปใช้ได้จริงใน ปี 2025 ซึ่งในตอนนี้ ก็ยังไม่ได้ประกาศความคืบหน้าเพิ่มเติม
ค่ายรถยนต์ฮุนไดและ Uber ก็ได้มีการทำรถยนต์บินได้ต้นแบบที่ชื่อว่า SA1 ออกมาแสดงโชว์ แต่ยังไม่มีการทดสอบการบิน อย่างไรก็ตามก็ถือว่าเป็นข่าวดีด้านนวัตกรรมความก้าวหน้าของมนุษยชาติที่มุ่งมั่นจะพัฒนาแก้ปัญหาการจราจรและเพื่อเป็นประโยชน์ในการขนส่งต่อไปในอนาคต
