Feature ป้องกันการใช้กล้องและการดักฟังใน iPhone
ปัจจุบันนี้ iPhone ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นโทรศัพท์มือถือที่ค่อนข้างจะมีพื้นที่เป็นของตัวเองสูง ซึ่งทาง iPhone เองก็พยายามที่จะสร้างภาพลักษณ์ของทางแบรนด์ Apple ให้เป็นที่รู้กันว่า เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการสื่อสารแต่ก็มีความปลอดภัย โดยทาง Apple จะเป็นผู้ที่ดูแลลูกค้าโดยตรง ไม่ผ่านการดูแลหลายขั้นตอน
เพราะในทุกวันนี้โลกออนไลน์ของเราหน้าบ้านเราอาจจะเห็นความสวยงามของโลกออนไลน์ที่พัฒนามาให้เราได้รับความสนุกสนานด้านต่าง ๆ เมื่อเราใช้งานเสร็จ เราก็ปิดระบบการใช้งานของแอปนั้น ๆ แต่บางครั้งเราจะรู้ได้อย่างไรว่าหลังบ้านจบการใช้งานเหมือนที่เราปิดการใช้งานในแอปนั้น ๆ แล้ว
ที่เรามักจะตอบคำถามจาก Application หรือ Platform อื่น ๆ กันอยู่เสมอ ๆ ใช่หรือไม่กับคำถามที่ว่า คุณจะยินยอมให้เข้าถึงรูปถ่ายข้อมูลไฟล์เสียงทั้งตัวคุณและของเพื่อนคุณหรือไม่ และผู้ใช้งานทุกคนที่ต้องการ Download Application ต่าง ๆ มาใช้ ก็มักจะตอบว่าตกลง ล่าสุดมีการพบว่าทาง แพลทฟอร์มชื่อดังของค่ายสีน้ำเงินแห่งหนึ่งเอง ก็ได้มีการจ้างคนมานั่งฟังเสียงไฟล์เสียงของผู้ใช้งาน ในเวลาที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว เพื่อจะทำการขายโฆษณาให้ตรงต่อเป้าหมายของผู้ใช้งาน
ดังนั้นจึงเป็นไปได้หรือไม่ว่า ในอนาคตการที่เรายินยอมให้ข้อมูลส่วนตัวนั้น อาจเป็นช่องทางให้ทางผู้พัฒนาเหล่านั้นได้ถือเป็นการยินยอมให้ทุกแพลตฟอร์มหรือทุก Application สามารถที่จะเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของเรา ทั้งในเวลาที่เรารู้ตัวหรือไม่รู้ตัว ดังนั้นทางบริษัท iPhone จึงได้ทำการพัฒนาฟีเจอร์การแจ้งเตือนว่ามีใครที่ดักฟังการพูดคุยและการติดต่อสื่อสารของเราอยู่หรือเปล่า
ฟีเจอร์นี้จะอยู่ใน iOS 14 ขึ้นไป
หากมีใครที่กำลังดักฟังหรือกำลังฟังไฟล์เสียงของเรา หรือกำลังใช้กล้องที่อุปกรณ์ของเราอยู่ โดยที่ iPhone จะมีจุดสีส้ม หรือจุดสีเขียว แจ้งเตือนที่ด้านบนของจอโทรศัพท์มือถือเป็นจุดเล็ก ๆ ด้านขวา โดยที่จุดสีเขียวจะแสดงถึงกำลังมี Application ใช้งานกล้องของเราอยู่ และจุดสีส้มแสดงถึงการที่มีแอพพลิเคชั่นกำลังใช้งานด้าน Microphone หรือไฟล์เสียงของเราอยู่ ถ้าเราโทรศัพท์คุยกับคู่สาย จะมีจุดสีส้มขึ้นโชว์ว่าเรากำลังใช้สมาร์ทโฟนโทรศัพท์ และถ้าเรากำลังใช้ Application ที่เกี่ยวกับกล้อง อย่างเช่น Video call จะมีจุดสีเขียวขึ้นโชว์ที่ด้านขวาบนของไอโฟน ใช้งานเสร็จแล้วเราสามารถที่จะเข้าไปเช็คข้อมูลได้ว่า ข้อมูลดังกล่าวตรงกับการใช้งานจริงของเราหรือไม่ โดยเข้าไปเช็คที่คำสั่งศูนย์ควบคุมใน iPhone
